เมนู

“5G” พลิกโฉมอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง

06/05/2022
By BBtec Admin
Title

การเข้ามาของระบบเทคโนโลยีสื่อสาร 5G ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกเป็นอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะเทคโนโลยี 5G ไม่ได้เป็นเพียงเครือข่ายไร้สายที่จำกัดการเชื่อมต่อเพียงมือถือเท่านั้น แต่ด้วยการพัฒนาขีดความสามารถในเรื่องของความเร็ว ทำให้เทคโนโลยี 5G มีศักยภาพในการเชื่อมอุปกรณ์ทุกชนิดที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ หรือที่เราเรียกว่า Internet of Thing (loT) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดนวัตกรรมและบริการรูปแบบใหม่

5G มีอัตราการตอบสนองที่รวดเร็วในระดับที่น้อยกว่า 0.001 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วสุดๆ สำหรับยุคนี้ ทำให้นำมาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีด้านต่างๆ ได้จึงสามารถนำไปใช้กับงานที่ต้องการความแม่นยำมากๆ และต้องมีความผิดพลาดน้อยที่สุด ยกตัวอย่าง เช่น การผ่าตัดทางไกล รถยนต์ไร้คนขับ ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ หรือระบบควบคุมเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องอาศัยการเชื่อมต่อวงกว้างและรวดเร็ว โดย 5G จะเป็นตัวเชื่อมต่อในการทำงาน ช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและเสถียรยิ่งขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่รองรับการรับส่งข้อมูลจำนวนมากด้วยความเร็วสูงและเสถียร ทำให้หลายภาคอุตสาหกรรมนำเทคโนโลยี 5G มาใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจ

5G ไม่ได้เป็นเพียงใช้เป็นคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ที่แรงขึ้นเท่านั้น แต่ 5G เป็นเทคโนโลยีที่ครอบคลุมวงกว้างมากกว่านั้น คือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เช่น เสาไฟอัจฉริยะ เครื่องมือตรวจสุขภาพ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะนวัตกรรมการขับขี่โลกแห่งอนาคต รถยนต์ไร้คนขับได้นำเทคโนโลยี 5G มาใช้ในการติดต่อสื่อสาร ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการขับขี่และการจราจรถึงกัน

นวัตกรรมการขับขี่โลกแห่งอนาคต ภาพรถยนต์ขับเคลื่อนแบบไร้คนขับ (Autonomous Vehicles) วิ่งบนท้องถนนคงเป็นจริงในอีกไม่นาน ซึ่งขบวนการทำงานของรถยนต์ไร้คนขับแบบสมบูรณ์ เกิดจากการรวบรวมเทคโนโลยีหลากหลายแขนงมาประยุกต์เข้าด้วยกัน ตั้งแต่การนำเทคโนโลยี IoT มาใช้กับกล้องติดรถยนต์ และเซนเซอร์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจจับวัตถุรอบคันรถ การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial (AI) เข้ามาช่วยควบคุมการขับเคลื่อนของรถยนต์ ร่วมกับ Big Data Analytics ที่ช่วยยกระดับความอัจฉริยะในการขับขี่ ซึ่งข้อมูลจำนวนมหาศาลเหล่านี้ถูกส่งผ่านเทคโนโลยี 5G ภายในเสี้ยวนาที เพื่อช่วยในการสื่อสารและเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน

เทคโนโลยีหลักที่ทำให้รถยนต์ไร้คนขับใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ คือ V2V (Vehicle to Vehicle communication) เทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างรถยนต์ด้วยกันเองซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ในการติดต่อสื่อสาร ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการขับขี่และการจราจรถึงกัน ด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีการขยายขอบเขตของการสื่อสาร ด้วยการพัฒนาให้รถยนต์สามารถสื่อสารกับทุกสิ่งได้ หรือที่เรียกว่า V2X (Vehicle to Anything) โดยภาพที่เห็นชัดที่สุด คือการสื่อสารระหว่างรถยนต์กับ Infrastructure บนท้องถนน เช่น เสาไฟฟ้า ทางเดิน อาคาร ที่สามารถติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารระหว่างเครือข่ายได้

นวัตกรรม V2V และ V2X คือ สิ่งที่เข้ามาเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างแท้จริง เนื่องจากรถยนต์สามารถสื่อสารรับส่งข้อมูลของรถยนต์แบบเรียลไทม์ เช่น ตำแหน่งของรถยนต์, ความเร็ว, อัตราเร่ง รวมไปถึงทิศทางในการขับขี่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถูกเก็บผ่านกล้องวิดีโออัตโนมัติแบบ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) หรือเซนเซอร์ และถูกนำมาวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ เมื่อพบพฤติกรรมเสี่ยงทั้งจากผู้ขับขี่และสิ่งแวดล้อมภายนอก โดยข้อมูลจะถูกส่งต่อผ่านระบบ cloud ไปยังไปยังอุปกรณ์เตือนภัย เพื่อช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ล่วงหน้าหากมีแนวโน้มจะเกิดอุบัติเหตุได้อย่างทันท่วงที 

เทคโนโลยี 5G จะเข้ามายกระดับประสิทธิภาพของระบบโลจิสติกส์ ด้วยการพัฒนาการทำงานของระบบ GPS ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยจะมีประโยชน์ในการช่วยติดตามการขนส่งตั้งแต่ต้นทางจนจบปลายทางแบบเรียลไทม์ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกลซึ่งเข้าถึงได้ยาก รวมถึงช่วยวางแผนเส้นทางการขนส่งที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งอีกทั้งยังประหยัดเวลาให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้รับสินค้า ในอนาคตหากเทคโนโลยี 5G ถูกพัฒนาไปอีกระดับ ไม่เพียงแต่การติดตามการเดินทางของพัสดุ แต่ยังครอบคลุมไปถึงการเช็คสถานะของสินค้า เช่น อุณหภูมิ แรงกระแทก ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายของสินค้าระหว่างการขนส่งได้อีกด้วย ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยี 5G เป็นหัวใจสำคัญที่สร้างการเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัดในยุคดิจิทัล ซึ่งไม่เพียงแต่จะก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยเปลี่ยนแปลงโลก แต่ยังพลิกรูปแบบวิถีการใช้ชีวิตของมนุษย์ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของทุกภาคอุตสาหกรรมในการนำเทคโนโลยี 5G ไปสร้างโอกาสทางธุรกิจที่จะก่อให้เกิดมูลค่าอย่างมหาศาล

แหล่งข้อมูลจาก www.pttdigitalconnect.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

27/09/2022
Air Blow Cable เทคโนโลยีก้าวหน้า ช่วยลดต้นทุนในการทำงาน
งานนำสายสื่อสารลงใต้ดิน เป็นงานที่สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลในการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน และยกเลิกเสาไฟฟ้าในเขตเมือง เพื่อปรับเปลี่ยนให้เมืองทันสมัย ไร้เสาไฟ ลดผลกระทบจากความขัดข้องสัญญาณ ลดโอกาสเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ หรือสายไฟหรือสายสื่อสารไหม้จากสัตว์ต่างๆ เช่น งู นก กระรอก นั้นลดน้อยลง 
30/07/2021
เปิดปฏิบัติการยกระดับอุตสาหกรรม สร้างความปลอดภัยในการทำงานแก่ Dtac-BBtec
วิกฤตโควิด-19 ได้สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับระบบซัพพลายเชนโลก และขณะเดียวกันก็เร่งให้เกิดความต้องการใช้งานบริการการเชื่อมต่อและสื่อสาร สำหรับดีแทคความท้าทายสำคัญนั้นคือการดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยของทีมงานในส่วนปฏิบัติการโครงข่าย ในยามที่กำลังเร่งยกระดับความครอบคลุมของสัญญาณอย่างต่อเนื่อง
กลับไปด้านบน